วันอังคารที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

วิธีเลือกซื้อรถมือสอง แบบมืออาชีพ


หลักเกณฑ์

ในการพิจารณาเลือกซื้อรถมือสองนี้ ผมได้เขียนขึ้นจากประสบการณ์จริงในช่วงหนึ่งที่เคยเข้าไปเกี่ยวข้องคลุกคลีในธุรกิจรถมือสอง และแรงบันดาลใจอีกประการหนึ่งที่เขียนเรื่องนี้ขึ้นมาก็คือ ก่อนที่จะดูรถเป็นผมได้ซื้อรถมือสองมาคันหนึ่ง หลังจากนั้นเมื่อได้นำรถไปซ่อมถึงพบว่า…….

รถที่ผมซื้อนั้นเป็นรถที่เกิดอุบัติเหตุหนักพอสมควร จึงทำให้เจ้าของเก่าต้องขายทิ้งไปที่เต้นท์ทันทีและเต้นท์ได้ทำสีและทำความสะอาดทุกอย่างจนดูเหมือนของใหม่ ผมจึงได้หลงซื้อไปใช้ ก็ถือบทเรียนไป หวังว่าท่านที่อ่านๆ บทความนี้แล้ว อย่างน้อยๆ ก็คงรู้แนวทางที่สามารถตรวจสอบรถที่คุณหมายตาไว้ได้ด้วยตนเอง

ซึ่งผมจะแนะนำเฉพาะในสิ่งที่คุณทำได้จริงๆเท่านั้น และเผอิญมันเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่คุณต้องตรวจสอบก่อนที่จะซื้อรถคันนั้นนะครับ

และแล้วหลังจากที่ท่านเลือกรุ่นและยี่ห้อได้แล้ว ไม่ว่าท่านจะไปดูรถบ้านประกาศขายเองหรือรถเตนท์นั้นหลักการเบื้องต้นของการเลือกรถมือสอง ผมอยากแบ่งเป็นสามส่วนหลัก ๆ ก่อนคือ

1. Major Defect Check ซึ่งได้แก่ ส่วนของโครงสร้างตัวถัง เครื่องยนต์ ระบบเกียร์ ระบบช่วงล่าง ระบบพวงมาลัย เป็นต้น
2. Minor Defect Check ซึ่งได้แก่ อุปกรณ์ต่างในรถ เช่น สวิชต์ต่างๆ ไฟเลี้ยว กระจกไฟฟ้า วิทยุ แอร์เครื่องเสียง กลไกเบาะ มาตรวัดต่างๆ หรือ อาจเป็น สีรถทั้งภายนอกและภายใน ที่อาจชำรุดทรุดโทรมไปเนื่องจากการใช้งาน หรือ เสียหายจากอุบัติเหตุ
3.Contract & Documentation ได้แก่เรื่องราวเกี่ยวกับสัญญาและเอกสาร รวมถึงดอกเบี้ยและประกันภัยหากซื้อเงินผ่อน




สำหรับบทความนี้จุดประสงค์ของผมต้องการให้คุณตรวจสอบได้ด้วยตนเอง ถึงแม้ไม่มีความรู้มาก่อน จึงอยากนำเสนอในเฉพาะเรื่อง การดูโครงสร้างตัวถังก่อน ส่วนอื่นๆ คุณอาจต้องพึ่งช่างหรือเพื่อนๆ คุณที่พอรู้เรื่องเครื่องยนต์มาช่วยคุณดูด้วยหรือจะใช้บริษัทที่ตรวจสอบรถที่จะพูดถึงภายหลัง

และที่ผมเน้นโครงสร้างตัวถังก็เพราะหากโครงสร้างตัวถังเสียหาย เมื่อซ่อมแซมหรือผ่าตัดมาแล้ว เป็นไปได้ยากที่จะทำให้ทุกอย่างเที่ยงตรงเหมือนโรงงาน และมีผลต่อเนื่องไปถึงระบบอื่นๆอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นช่วงล่าง เกียร์ และอื่นๆ

แต่หาก โครงสร้างตัวถังปกติแล้ว ส่วนอื่นๆ หากเกิดความเสียหาย ยังสามารถซ่อมแซมหรือ เปลี่ยน เพื่อให้สภาพกลับมาสมบูรณ์ดังเดิมได้

เอาล่ะครับ เมื่อคุณตัดสินใจเลือก เต้นท์ หรือ รถบ้านที่คุณจะไปดูได้แล้ว ดูเป็นข้อๆ ตามนี้ไปเลยนะครับ ผมรับรองว่า ถ้าคุณดูผ่านตาไว้ไม่น้อยกว่า 10 คัน ก่อนที่จะซื้อ และถ้าคุณเป็นคนช่างสังเกตุและชอบเรื่องรถยนต์อยู่บ้าง ก็น่าจะเริ่มสังเกตุสิ่งผิดปกติเป็นแล้วหล่ะครับ อาจจะเพียงพอที่จะเลือกซื้อได้ด้วยตนเองแล้วก็ได้ มาเริ่มกันที่


1 . สังเกตุช่องว่าง(Gap)หรือช่องรอยต่อของตัวถัง

ลองเดินดูรอบๆ ตัวถังรถก่อน ในความเป็นจริงคุณอาจไม่สามารถดูรถในบริเวณพื้นที่ที่กว้างขวาง เพื่อที่จะดูแบบ zoom-in , zoom-out ได้อาจเนื่องด้วยขนาดของพื้นที่ของผู้ขายหรือเป็นความจงใจของผู้ขายที่ไม่อยากให้คุณสังเกตุดูอย่างใกล้ชิดก็เป็นได้กลัวว่าคุณจะเห็นข้อบกพร่องของตัวรถ สมมุติว่าเป็นพื้นที่แคบๆ แล้วกัน อย่างตามเตนท์ทั่วไป ที่รถจอดซ้อนๆกันอยู่เยอะ ดูสีหรือแสงที่สะท้อนอาจดูลำบาก ดูการเปรียบเทียบช่องไฟซ้ายขวาก่อน ช่องไฟหรือช่องว่างระหว่างรอยต่อของเหล็กสองชิ้น
ตามรูป เช่น ฝากระโปรง กับ บังโคลน , ฝากระโปรงกับ กระจังหน้า บังโคลน กับ ประตูหน้า รวมถึงช่องไฟทุกช่อง คุณจะรู้ได้อย่างไรว่า ระยะห่างแค่ไหนถึงปกติ ไม่มีใครรู้หรอกครับผมก็ไม่รู้ เพียงแต่หากเราจะใช้วิธีเปรียบเทียบกัน ด้านซ้ายกับด้านขวา ปกติแล้วช่องว่างหรือช่องไฟ มันจะเท่ากันไม่ว่าจะเป็นประตูหน้า,หลัง หรือ ซ้าย , ขวา
2. เล็งสังเกตุดูที่สีและสังเกตุเงาสะท้อนของสี

อันนี้ดูยากหน่อย เพราะแสงในเตนท์รถบางเตนท์ไม่สว่างนักต้องใช้แสงนีออนร่วมด้วย ถ้าแสงสว่างธรรมชาติเข้ามามากๆ การดูเงาสะท้อนหรือการตกกระทบของแสง จะสังเกตุได้ดีกว่า แต่เอาเถอะหากแสงนีออนก็ไม่เป็นไร ดูเท่าที่ดูได้ดีกว่า คุณดูเงาสะท้อนในสีรถหากบางจุดเรียบ บางจุดดูคล้ายเป็นลอนคลื่น

แต่หาก ช่างซ่อมมาดี คุณอาจสังเกตุไม่เห็นก็ได้ หากไม่มีประสบการณ์มากพอ แต่เราใช้เกณฑ์วัดจากสายตาคุณ ไม่ใช่สายตาของผุ้มีประสบการณ์สูง หากรอดพ้นสายตาคุณ ก็อาจเป็นได้ว่า ไม่มีการซ่อมแซมหรือซ่อมแซมมาดีจน ไม่มีปัญหาใดๆ ก็ได้

เอาล่ะครับลองไล่ดูตั้งแต่ แนวบังโคลน ประตู และส่วนท้ายของรถดู คร่าว การสะท้อนเของเงาและสีเป็นอย่างไร คุณอาจไม่รุ้ว่ามาตรฐานมันเป็นอย่างไร เอาอะไรมาอ้างอิง ไม่ต้องซีเรียสขนาดนั้น สังเกตุดู การสะท้อน ดังรูป

เปรียบเทียบกันระหว่าง พื้นที่ต้องสงสัย เปรียบเทียบกับพื้นที่ข้างๆ ครับ คุณต้องไล่ดูรอบๆคันช้าๆ เที่ยวแรกไม่เห็นไม่เป็นไร เดินอีกเที่ยว การค่อยๆดูทำให้คุณต้องโฟกัส สายตาและสมาธิไปกับตัวถังรถ ไล่ๆไปเรื่อยๆ อยู่แล้ว

ทำให้คุณเห็นความผิดปกติ (หากมี) ได้โดยอัตโนมัติ…. ส่วนของตัวถัง ส่วนที่เป็นโค้งมนน่ะครับเวลาเคาะหรือซ่อม ถ้าทำไม่ดี มันจะเห็นความแตกต่างเล็กน้อยถ้าสังเกตดีๆ ต้องใช้การสะท้อนเงาช่วยดูด้วย


แต่ถ้าไม่เห็นความผิดปกติใดๆ เลย ก็อาจเป็นไปได้ว่า ซ่อมมาอย่างดี หรือ ไม่เคยเกิดการเฉี่ยวชนมาก่อน ในเรื่องของ สีตัวรถนั้น ผมอาจจัดให้อยู่ในหมวด Minor defect check ก็ได้ แต่ที่จัดให้อยู่หมวดนี้ บางที การซ่อมแซมสีนั้นอาจหมายถึงการชนหนักมาก็ได้ เอาล่ะครับหากเห็นสิ่งผิดปกติเล็กน้อย ก็ไม่เป็นไร คุณทำตามผมเป็นข้อๆ ไปก่อน เดี่ยวเราค่อยมาสรุปกันภายหลัง

3. สังเกตุที่สันเหลี่ยม( Ridge & Line )ของตัวรถ

หากรถคันที่ท่านต้องการมีสันเหลี่ยม หรือ สันด้านข้างยอดนิยม อย่างเช่น BMW หรือ Benz หรืออีกหลายยี่ห้อก็นิยมมีสันแนวด้านข้าง ไล่สายตาสังเกตุดู เทียบด้านซ้ายกับด้านขวา น่ะครับ สันเหลี่ยมของรถคันเดียวกันซ้ายขวา ต้องมีความคมชัดที่เท่ากันทั้งสองด้าน ไล่ดูตั้งแต่บังโคลนหน้า ผ่านประตู ไปจนถึงส่วนท้าย

และอย่าลืมมอง แนวสันบนฝากระโปรงหน้าด้วยหากมี ดูทั้งสองด้าน บางเตนท์นิยมซื้อรถที่ชนหนักมาราคาถูกแล้วซ่อมโดยวิธีตีเคาะเหล็กชิ้นเดิมโดยไม่เปลี่ยนเหล็กชิ้นใหม่ หากทำมาไม่เนียนจริงเราพอจะสังเกตุหรือจับผิดได้

4.ดูด้านในฝากระโปรงหน้า หลัง

ฝากระโปรงหน้า เมื่อคุณเปิดแล้ว ลองดู ตรงนี้ บริเวณ รูกลม ระหว่างเหล็ก 2 ชิ้นมันซ้อนเหลื่อมกันอย่างเห็นได้ชัดหรือเปล่า และ น็อตที่ใช้ไขระหว่าง บังโกลน กับ ส่วนเฟรมตังถัง มีรอยบิ่นเหมือนถูกไข หรือ หัวน็อตสีไม่เหมือนกัน แสดงถึงการแกะ แงะ เพื่อ ทำอะไรบางอย่างหรือเปล่า หรือบางครั้งเกิดชนขึ้นมาประกันชั้นหนึ่งอาจเปลี่ยนบังโคลนไปเลย ซึ่งก็ถือว่าดีกว่าซ่อม ดูไว้ก็ดีแต่อย่าไปใส่ใจมากนัก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น