วันศุกร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2553
รีวิว : HONDA FREED 7 ที่นั่งของคนเมือง
หลายปีให้หลังตลาดรถยนต์บ้านเราดูเหมือน ว่านักเลงรถทั้งหลายเริ่มมีความเป็นตัวของตัวเอง
เลือกซื้อรถยนต์ที่เหมาะกับบุคลิก รวมถึงลักษณะการใช้งานที่แท้จริงและหลากหลายมากขึ้น
เห็นได้จากรถ ยนต์หน้าตาแปลกๆ ในเซ็กเมนต์เดิมที่มีทำตลาดอยู่
อีกทั้งเกิดเซ็กเมนต์ ใหม่ๆ ให้ไว้ได้เลือกใช้กันตรงกับความต้องการมากที่สุด
อย่างล่าสุด "ฮอน ด้า" ตัดสินใจเปิดตัว "ฟรีด" (Freed) รถอเนกประสงค์ หรือเอ็มพีวี ขนาดกลาง
ซึ่งเป็นเซ็กเมนต์ที่ยังขาดอยู่ เพราะส่วนใหญ่ทั้งเจ้าของแบรนด์เอง หรือผู้นำเข้าอิสระ ต่างมุ่งไปที่เอ็มพีวีขนาดใหญ่
แต่ด้วยเพราะราคาที่เกินเอื้อมทำให้หลายคนได้แต่มองแล้วหวังว่าวันหนึ่งจะได้เป็นเจ้าของ
ฮอนด้า มองเห็นช่องว่างนี้เองจึงได้นำฟรีดเข้ามาทำตลาด ผนวกกับมาตรการด้านภาษีของอาฟต้า
เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ม.ค.2553 ที่ผ่านมา ทำให้ฟรีดที่นำเข้าจากอินโดนีเซีย ทำราคาได้น่าสนใจ
ก่อนที่จะเริ่มทำตลาดอย่างเป็นทางการ ทีมงานประชาสัมพันธ์ฮอนด้าจัดให้กระจอกข่าวร่วมทดสอบฟรีด
บนเส้นทางกรุงเทพฯ-หัวหิน ขับกันไปแบบชิลชิลสลับกันคนละประมาณเกือบๆ 100 กิโลเมตร
ข่าวสด ยานยนต์" เลือกเป็นผู้โดยสารก่อน หวังจะได้สำรวจตรวจตราภายในให้เต็มที่เสียตั้งแต่แรก
เบาะนั่งแบบผ้าขนาดไม่ใหญ่มากนัก ทำให้ชายไทยร่างอวบเต่งต้องขยับอยู่สักพักถึงจะลงตัว
อุปกรณ์ ต่างๆ จัดวางอย่างเรียบง่าย รวมถึงวัสดุที่ใช้ดูแตกต่างจากความเป็นฮอนด้าอยู่ค่อนข้างมาก
แม้จะมีจอมอนิเตอร์ที่ใช้สำหรับชมดีวีดี และระบบนำทางเนวิเกเตอร์มาให้ก็ตาม
นั่งดูเพื่อนกระจอกข่าวจากสำนักยวดยาน วีระโชติ ดวงฤทัย ขับรถไปด้วยความเย็นใจ ทำความเร็วไปเรื่อยๆ
ตั้งแต่ออกเดินทางย่านสาทร ไปจนถึงถ.พระราม 2 ช่วงกลางๆ จุดจอดพัก และเปลี่ยนคนขับ
ช่วงที่สอง "ข่าวสด ยานยนต์" ยังคงเป็นผู้โดยสาร แต่ไปนั่งที่เบาะหลังแทน ทำให้เห็นความโดดเด่นของฟรีดคันนี้
ในเรื่องของประตูสไลด์ ที่ทำได้ทั้ง 2 ด้านแบบอัตโนมัติ เทียบได้กับรถเอ็มพีวีระดับหรู การขึ้น-ลงรถทำได้สะดวก
แม้จะจอดในที่แคบก็ตาม
นอกจากนี้ การดีไซน์ให้ภายในห้องโดยสาร สามารถเดินถึงกันในทุก ตำแหน่ง ทำให้ลุกไปหยิบของที่เบาะนั่งแถว 3
ซึ่งสามารถพับเป็นที่เก็บสัมภาระ หรือเปลี่ยนตำแหน่งคนนั่งได้อย่างอิสระ ตอบโจทย์รถเอ็มพีวีได้เป็นอย่างดี
ส่วนเบาะนั่งแถวสาม หากจะนั่งแบบเดินทางไกลควรเป็นคนที่รูปร่างไม่ใหญ่โตเกินไปนัก เพราะถ้านั่งนานๆ
อาจจะรู้สึกอึดอัดอยู่สักหน่อย
ถึงเวลาที่ "ข่าวสด ยานยนต์" จะได้ขึ้นนั่งในตำแหน่งสารถี เบาะนั่งยังเหมือนเดิม
คือต้องขยับตัวกันเล็กน้อยถึงจะได้ระดับที่ต้องการ บิดกุญแจสตาร์ตเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร
ซึ่งเป็นบล็อกเดียวกันกับที่ใช้ใน "ฮอนด้า แจ๊ซ"
เสียงเครื่องยนต์เดินเรียบ ออกตัวได้นุ่มนวล พวงมาลัยแม่นยำ การควบคุมทำได้ดี
ไม่ว่าจะช่วงทำความเร็ว เร่งแซง และเข้าโค้ง ช่วงล่างแม้จะให้ความนุ่มนวลไม่เท่าเก๋ง
แต่ไม่ได้ถึงขนาดที่เรียกว่ากระด้าง โดยเฉพาะช่วงคอสะพานหรือผ่านหลุมเนิน
เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ปรับเปลี่ยนได้แบบไม่มีอาการกระตุกให้ได้รู้สึก
กำลังของเครื่องยนต์ดูเหมือนว่าไม่ค่อยสัมพันธ์กับตัวรถเท่าไหร่ ช่วงทำความเร็วระหว่าง 80-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ต้องรอรอบอยู่สักพัก แต่พอผ่านไปแล้วปลายไหลได้ดีขึ้น
หากถอนคันเร่งแล้วกดไปใหม่ กว่าที่กำลังของรถจะกลับมาต้องใช้เวลาอึดใจใหญ่เลยทีเดียว
ทำให้เวลาเร่งแซงต้องใช้วิจารณญาณอยู่พอสมควร แต่ถ้าใช้เวลาทำความคุ้นเคย
และเป็นนักเลงรถที่ไม่ได้รีบร้อน เชื่อว่าไม่น่ามีปัญหาแต่ประการใด
มาว่ากันเรื่องของรูปลักษณ์ภายนอก ฮอนด้า ฟรีด ดีไซน์ออกมาในแนว "ยูโรเปี้ยน สไตล์"
มองผาดๆ แล้วคล้ายรุ่นแจ๊ซ ที่เบ่งขยายตัวใหญ่ขึ้น กระจังหน้า 3 ชั้น สีดำในรุ่น S และ E
ส่วน E Sport กับ E NAVI Sport เป็น สีเดียวกับตัวรถ
ด้านบนลาดเอียงสอดรับกับตัวถังด้านหน้า เส้นสายด้านข้างคมชัด บนพื้นผิวโค้งมน
ทำให้ดูมีมิติและให้ความรู้สึกแข็งแกร่ง ประตูข้างแบบอัตโน มัติซ้าย-ขวา เปิดได้กว้างสุด 600 ม.
เพิ่มความสะดวกด้วยรีโมตคอนโทรล
นักเลงรถที่ชอบเดินทางเป็นหมู่คณะแบบไม่รีบร้อนจนเกินไป แต่กระเป๋าไม่หนาพอซื้อรถเอ็มพีวีตัวใหญ่ได้
ฮอนด้า ฟรีด เป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าจะไปทดลองขับดู
เพื่อประเมินดูว่า เหมาะกับไลฟ์สไตล์ตัวเองหรือไม่!??
ข้อมูลทางเทคนิค
แบบตัวถัง อเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง
เครื่องยนต์ SOHC 4 สูบ 16 วาล์ว i-VTEC
ความจุ 1497 ซีซี
กำลังสูงสุด 118 แรงม้า/6,600 รอบฯ
แรงบิดสูงสุด 146 นิวตัน-เมตร/4,800 รอบฯ
ระบบรองรับ(หน้า) แม็คเฟอร์สันสตรัต/เหล็กกันโคลง
ระบบรองรับ(หลัง) ทอร์ชั่นบีมแบบ H-Shape
มิติ(กว้าง x ยาว x สูง) 1,700 x 4,215 x 1,735 ม.ม.
ราคา 894,500-1.0745 ล้านบาท
ที่มา http://forums.thaihondafreed.com/index.php
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น